Aquaman พ่อใหญ่เจ้าสมุทร งานบันเทิงสุดฉ่ำ แต่อารมณ์ร่วมแห้งแล้ง

โดยที่ตรงนี้สามารถเรียกได้ว่าทั้งสแตนและทีมงานเองรู้ชัดเจนแหละว่าสูตรที่ทำให้ ‘Aquaman’ ฉบับที่แล้วสามารถดำเนินต่อไปการที่หนังจะมีจุดแข็งที่แตกต่างจากซูเปอร์ ฮีโร DC เรื่องอื่น ๆ ทั้งหมดทั้งการเสิร์ฟความบันเทิงสไตล์หนังป๊อปคอร์นแบบครบรสรวมทั้งมุกตลก Mood และงานสร้างแฟนตาซีติดเพี้ยนนิดหน่อยดราม่าครอบครัวจังหวะวิจารณ์แอ็กชันหนัก ๆ และสงครามตื่นตา เมืองแอตแลนติสสุดอลังเคยดูหนังเรื่องอื่น ๆ มาก่อนก็เข้าใจ

ที่สำคัญคือเป็นหนังที่ไม่ต้องเก๊กหรือซีเรียสเพื่อให้สามารถขับรถได้หนังที่ถ้าอยากเท่ก็เท่ได้แต่อยากลิเกก็เอาเรื่องทั้งหมดนั่นก็คือสิ่งที่คนดูชอบเป็นครั้งแรกที่คนหนังก็เลยเอาจุด แข็งที่มาที่มาให้กับภาคนี้ด้วยเครื่องจะเห็นได้ถึง Vibe ที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับภาคนี้ด้วยความเคารพต่อมิติและการควบคุมของเส้นเรื่องที่ร่างกายยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน วิกฤติโลกร้อนสภาวะที่มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันผลจากการสำรวจจากท้องทะเลที่เพิ่มมาได้ในระดับที่พอดีและไม่ได้รู้สึกว่าคุณอาจดแต่อาจมีอาการขยี้ต่อเพื่อดูอาการจนขนลุก

บริเวณจุดปรับและจากนั้นก็ให้ภาคนี้มีความเป็นหนังแนวคู่หูลองดูที่ฝั่งพี่ก็เน้นโบ๊ะบ๊ะ ฮะ บางแป้กบางส่วนก็สามารถพบกับความเพี้ยนและจังหวะที่เข้มข้นขึ้นกว่า ก่อนอื่นสิ่งที่ชัดเจนก็คือการที่เพิ่มของตัวละครประกอบที่แล้วดูวิลสันที่นี้จะเริ่มเป็นชิ้นเป็นอันที่ชัดเจนของการทำหน้าที่ของน้องที่แตกต่างกันพ่อที่เริ่มต้นป มไม่ยอมรับพี่ชายของตัวเองและรูปร่างหน้าตาเน้นมุกหน้าตายที่ได้ฮาอยู่นะอย่างเห็นได้ชัดจุดนั้นก็คือฉากแอ็คชั่นมาก ๆ คือถ้าภาคที่เยอะแล้วเน้นสมรภูมิภาคอุทยาน… เพื่อที่จะเน้นไปที่กชันตัวต่อตัวต่อตัวจำนวนมากที่เน้นย้ำคู่หูรุมอัดศัตรูแบบแรงๆ มากมายที่จุดเกิดเหตุสงครามก็ยังคงถือว่าทำออกมาได้น่าติดตามและอลังการแต่เพียงอย่างเดียวแต่อาจจะไม่ได้… อลังและเต็มที่เท่าภาคแรก

แต่ที่โดนลดแน่อยู่แล้วก็คือราชินีเมราของเจ๊ แอมเบอร์เฮิร์ดที่แต่ก็เป็นไปตามที่ออสเคยว่าเมนบอร์ดนี้เมราโจมตีลดความสำคัญไปที่โฟกัสที่อควาแมน และออร์มโดยพื้นฐานซึ่งเอาจริงยังคงถือว่ามีฉากอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่นะครับ แต่ส่วนมากว่าด้วยเหตุใดบ้านทั้งถ่ายซ่อมแก้บทหรือตัดต่อใหม่หรืออะไรก็ตามแต่จะทำให้เมรา นี้ไม่ได้เส้นเรื่องและบทบาทเป็นของตัวเองสักเล็กน้อยแนวนี้เป็นเบื้องหลังคอยซัปพอร์ตพระเอกมากกว่าที่สังเกตจับความรู้สึกของฉากที่ออกมาที่นี่ออกมาเป็นต… คิดทบทวนสถานการณ์ให้กับอควาแมนเลยด้วยซ้ำ

สาเหตุของปัญหาใหญ่ที่สุดของหนังก็คือการหนีไม่พ้นบทและตัดต่อครับ บทอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักเพราะหนังเลือกมาทางบันเทิงก็พอเข้าใจหนังก็เลยเดินเรื่องแบบเป็นเส้นตรง ไม่ต้องดูง่ายเดาง่ายแบบเดียวกับภาคแรกก็สามารถ Conflict และ Vibe หรือลูกล่อลูกชนต่าง ๆ ซึ่งในมุมหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ที่นี่สูตรที่ลงตัวแล้วของหนังชุดนี้ แต่อย่างไรก็ตามมุมก็อาจมองได้ ในที่สุดก็สามารถถอดแบบมาจากภาคแรกจนขาดความสดใหม่ไปได้เลยหรือถ้าเอาแบบตรงก็คือตัวหนังก็ยังกินบุญเก่าจากภาคที่แล้วจำนวนมากต้องอาศัยเพียงแค่โทนเนอร์บางอย่างที่เพิ่มขึ้นและ บางอย่างออกเท่านั้นเอง

แต่สิ่งที่เป็นจุดสำคัญก็คือการตัดต่อครับ ซึ่งการตัดต่อ (ตรวจสอบซ่อม+ปรับบทใหม่) ในที่สุดการหนีไม่ต้องอาศัยเพราะต้องการกั๊กนักแสดงในที่นี้จะรับรู้บทหนังแบบดั้งเดิมจะ ออกมาเป็นอย่างไรนะครับ แต่มักจะเชื่อลึกลงไปในตัวละครนี้แต่เดิมมีหลายจุดในระดับหนึ่งแหละ แต่ด้วยดราม่าที่แตกต่างกันออกไปมาก ๆ ทีมงานก็เลยต้องงัดระบบท่าเพื่อให้ตัวละครนี้ ยังคงดำรงอยู่ในฐานะตัวละครประกอบที่มีบทพูดเท่านั้นเอง